บทนำ
ชั้นบนสุดของตึก 35 ชั้น คืออาณาจักรส่วนตัวของเจ้าของบริษัท SITA Corporation จำกัด บริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศ ที่มีกิจการครอบคลุมหลายๆธุรกิจ ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค อสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า และธุรกิจทางการเงิน SITA Corporation เป็นบริษัทที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จากบริษัทขนาดกลางเมื่อ 25 ปีก่อน ในนาม บริษัท บุณมาศ ฟู้ด จำกัด ไม่มีใครทราบว่าเพราะอะไรทำให้บริษัทแห่งนี้เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีการเปลี่ยนชื่อจากบริษัท บุณมาศ ฟู้ด จำกัด เป็น SITA Corporation ในปัจจุบัน มีเพียงคนภายในระดับสูงเท่านั้นที่ทราบว่า บุณมาศ ฟู้ด ได้รับเงินทุนมาขยายธุรกิจจากที่ใด และการบริหารถูกควบคุมโดยบุคคลผู้หนึ่ง แม้ประธานบริษัทยังเป็นคนเดิมคือนายอำพล บุณทริกามาศ หากแต่ที่ปรึกษาท่านประธานต่างหากที่สำคัญ 20 ปีต่อมา คณะบริหารมีชื่อของบุตรชายคนโตของนายอำพล เข้ามาเป็นรองประธาน ยิ่งนำพาบริษัทในภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยกว่าเดิมขยายธุรกิจออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เพียง 5 ปี ท่านประธานอำพล ก็สละตำแหน่งประธาน และแต่งตั้งให้นายจอมทัพ สีตะอังศุ บุตรชายคนโต เป็นประธานบริษัท และมีอำนาจเต็มในการบริหาร
บนโต๊ะไม้มะฮอกกานีตัวใหญ่สีดำปลาบ พื้นโต๊ะปูด้วยกระจกหินภูเขาไฟสีดำออบซิเดียน มีแฟ้มและเอกสารวางอยู่เต็มพื้นที่ ทั้งหมดคือแผนงานในการขยายธุรกิจของ SITA Corporation ไปยังประเทศสิตางครัฐ ประเทศที่มีขนาดเท่าๆกับไต้หวันแต่มีทรัพยากรที่เป็นที่ต้องการของหลายๆประเทศ
"เรื่องสัมปทานรถไฟความเร็วสูงไปยังสิตางครัฐเป็นอย่างไรบ้าง?" จอมทัพ สีตะอังศุ ประธานบริษัทคนใหม่ของ SITA Corporation เอ่ยถามเลขานุการคนสนิท โชคบดินทร์ บุญตระกูล คนที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก และถูกส่งไปเรียนที่อเมริกามาด้วยกัน
"บริษัทที่เราเข้าไปถือหุ้นชนะการประมูล และได้รับสัมปทานครับ จะมีการทำ MOU และลงนามในสัญญาในอีกสองเดือนข้างหน้าครับ" โชคบดินทร์ยื่นเอกสารรายงานให้จอมทัพอ่าน
"งานนี้จ่ายไปเท่าไหร่ล่ะ?" จอมทัพแค่นยิ้ม การประมูลอิเล็กทรอนิกส์ คิดว่าจะโปร่งใสจริงๆหรือ หึ!
ปี๊บ ปี๊บ
ปุ่มสีแดงที่แสดงบนโทรศัพท์เป็นข้อความจากเลขาฯหน้าห้อง จอมทัพกดที่ปุ่มรับเพื่อให้เลขาฯแจ้งข้อมูลได้
"คุณสถาปัตย์ขอเข้าพบค่ะท่าน"
"ให้เข้ามา" เขาตอบแล้วตัดการสนทนา
"ขออนุญาตครับ" เสียงทุ้มตามมาด้วยชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทธสีดำสนิท เสื้อเชิ้ตสีขาวและเนคไทสีดำเรียบร้อยเปิดประตูก้าวเข้ามาในห้องของท่านประธาน "คุณหนูเดือนรุ่งจะกลับจากอังกฤษในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า คุณนายจึงส่งข้อมูลของบอดี้การ์ดมาให้เจ้านายเลือกครับ"
"หือ? เจ้าตัวยุ่งจะกลับมาแล้วเหรอ? ฉันลืมไปเลย" เดือนรุ่งหรือแจนคือน้องสาวคนสุดท้องของตระกูลบุณทริกามาศ แจนไปเรียนต่อที่อังกฤษตั้งแต่มัธยมปลาย จนตอนนี้จบการศึกษาจากคณะสัตวแพทย์ และกลับบ้านเพื่อจะทำงานตามวิชาที่เธอเรียนมา แม้ว่าพี่ชายจะอยากให้เธอเรียนคณะบริหารเพื่อมาช่วยงานธุรกิจครอบครัวก็ตาม แต่สัตวแพทย์ก็ช่วยงานครอบครัวได้นะ ก็ SITA น่ะมีฟาร์มตั้งหลายแห่งนี่นา
ปัด หรือสถาปัตย์ เป็นบอดี้การ์ดของจอมทัพ แต่ก็ทำงานเหมือนเป็นมือซ้าย ในขณะที่โชคบดินทร์เป็นมือขวา เขายื่นแฟ้มให้เจ้านายดูทำให้เจ้านายวางแฟ้มเรื่องสัมปทานรถไฟลง จนได้รับค้อนจากโชคบดินทร์ไปหนึ่งที จอมทัพเปิดดูแฟ้มข้อมูลบอดี้การ์ดคร่าวๆแล้วยื่นคืนให้ปัด
"ฉันว่าฉันมีคนที่อยากจะให้มาเป็นบอดี้การ์ดให้ยัยแจนแล้ว"
"หือ? ใครหรือ?" โชคอดสงสัยไม่ได้
"โชค นายติดต่อเอื้อให้หน่อย บอกว่าฉันมีเรื่องจะคุยด้วย" จอมทัพยกยิ้มมุมปาก
"สารวัตรปกครองน่ะหรือ?" โชคเอ่ยถาม
"เป็นสารวัตรแล้วหรือ? ก้าวหน้าดีจริง" จอมทัพพยักหน้า "บอกเขาว่าคงถึงเวลาที่ยัยแจนกับคู่หมั้นจะได้เจอกันแล้ว"
.
.
.
แนะนำตัวละคร
AN: เรื่องนี้จะเป็นแนวๆลักษณวดี/โรสลาเรน นะคะ แต่พระเอกไม่ตายตอนจบแน่ๆ สัญญา
จ้านป๋อ นะคะ แต่จะแมนๆทั้งคู่ อ่านไปอ่านมาอาจมีสับสนโพ แต่จ้านป๋อแน่ๆเพราะพี่โหดมาก และตะน้องก็มีอารมณ์มุบมิบนุบนิบหน่อยๆ ไว้คอยลุ้นกัน หุหุหุ
ปล. ชื่อไทยพยายามแต่งให้ใกล้เคียงกับชื่อจริงของแต่ละคน อย่างชื่อพี่จ้านคือสงคราม นักรบ อะไรพวกนี้ ชื่อป๋อก็กูเกิ้ลมาได้ว่าแปลว่าสามีหรือนักปราชญ์ เอ่อ เอาเป็นปราชญ์ละกัน 5555+ ลู่ก็แปลว่าหยก (คนละลู่กับลู่หานที่แปลว่ากวางแห่งรุ่งอรุณ) จื่ออี้ก็แปลได้ว่าเดือนแรก เลยชื่อแจนซะเลย ลองมาเดาๆกันดูนะว่าตัวละครแต่ละคนเอาชื่อมาจากใครบ้าง หวังว่าจะชอบกัน ^^
ปลล. ฉบับทดลองอ่าน ขอฟีดแบ็คหน่อยนะคะว่าจะได้ไปต่อหรือเปล่า ^^
ความคิดเห็น